10 ข้อพลาดเวลาทำ Portfolio แล้วมหาลัย ไม่ให้ผ่าน
1.ไม่มีความชัดเจน: Portfolio ที่ไม่มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนอาจารย์ตรวจ Port ไม่เข้าใจว่า น้องจะสื่อสารอะไร หรือบอกอะไร บางครั้งอ่านจบจบแล้ว ก็ไม่รู้เลยทำไมต้องเลือกน้องเข้าไปเรียน ส่วนมากจะเกิดกับคนที่มือใหม่ หรือทำ Port แบบกลางๆแล้วยื่นหลายคณะ ยื่นหลายมหาลัย บอกเลยห้ามทำ เพราะสุดท้ายแล้วพอมันต้องเทียบกับคนไฟแรง เป้าหมายชัด กิจกรรมก็ไปทางเดียวกับเป้าหมาย มันก็เลยต้องเลือกอะไรที่ชัดเจนกว่า ดังนั้น อย่าทำ PORT ที่สื่อสารแย่ ไม่ชัดเจน
ข้อมูลมากเกินไป: การใส่ผลงานมากเกินไปที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคณะที่เราจะเข้า จะทำให้อาจารย์สับสนหรือเลิกสนใจ เพราะเวลาอ่านมันจะงง และไม่รู้ว่าสรุปแล้ว คนเขียนจะบอกอะไรกับอาจารย์ที่กำลังตรวจ เอ๊ะ สรุปอยากเข้าคณะไหนนะ ทำไมผลงานดูเหมือนมีความสนใจหลายอย่าง มีความสามารถหลายอย่าง บางอย่างชระรางวัลระดับประเทศเช่น ประกวดร้องเพลง … เด็กคนนี้เหมาะกับการร้องเพลงมากกว่าเข้าคณะแพทย์ไหมนะ? นี่คือตัวอย่างที่จะเกิดขึ้น
ส่วนที่สำคัญของการทำ PORT แล้วไม่ติด ไม่ผ่าน 50% อยู่ที่ผลงาน + กิจกรรม แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะบางคน ผลงานเยอะกิจกรรมเยอะ แต่นำเสนอไม่เป็น Present ไม่เก่ง คนที่เล่นใหญ่กว่า นำเสนอดีกว่า ก็ได้คะแนนเยอะกว่าก็มี อย่าเพิ่งท้อ
ใครงบน้อย พี่ทำไฟล์ port ราคาถูก 159.- บาทมาขาย หาค่าอาหารแมว และเพื่อน้องๆที่กำลังทรัพย์น้อย แต่ได้พอร์ตคุณภาพ และคอร์สคุณภาพดี รวมถึงเร็วๆนี้กำลังจะมีคอร์สเรียน TGAT แจกทุกคนที่ซื้อไฟล์พี่ไปด้วย จริงๆมีแจกเพิ่มอีกเยอะ ถ้าอยากได้เข้าไปเลือกดูก่อน ถ้าชอบค่อนสั่งซื้อน้า > : https://bit.ly/3pqtPzq
ผลงานส่วนมากที่ไม่ใส่เรื่องราวหรือบริบทอาจทำให้อาจารย์ที่ตรวจไม่เข้าใจว่าผลงานนั้นคืออะไรและทำไมต้องใส่มา อย่าใส่แค่รูปภาพ แล้วคิดว่าอจารย์จะจินตนาการได้ ว่าเราอยากบอกอะไรกับอาจารย์ เขียนมาซะ เขียนมาให้ดี
ขาดการแสดงทักษะ : Portfolio ที่ไม่แสดงให้เห็นทักษะตัวเองที่โดดเด่นมักจะไม่ได้รับการคัดเลือกเช่น วิศวะ ทักษะหลักที่ควรมีคือ คิดวิเคราะห์ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การคำนวนที่เก่ง ความแม่นของการแก้โจทย์ฟิสิกส์ หรืออื่นๆ ที่จำเป็นต่ออาชีพนั้นๆ และ 80% แทบไม่มีคนแสดงทักษะเหล่านี้เพื่อบอกว่า ผม ฉัน มีศักยภาพ ในการเรียนคณะนี้ ดังนั้นใส่ไปซะ อย่าพลาด
ขาดการยืนยันแหล่งที่มา : Portfolio ที่ดีความมีที่มามีหลักฐานอ้างอิงเช่น รูปถ่ายที่มีเราทำกิจกรรม เกียรติบัตร ซึ่งในบางคนไม่มีรูปตัวเองทำกิจกรรม อาจจะทำให้อาจารย์เกิดข้อสงสัย ว่าเราได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ไหม ทำจริงหรือไม่ หรือแค่เขียนโกหกมา ดังนั้น รูปภาพ เกียรติบัตร สำคัญ แหล่งอ้างอิงกิจกรรม หลือผลงานเพื่ออ้างอิงสำคัญ
ขาดเหตุผลที่ศึกษาต่อ : Portfolio ทุกวันนี้จำเป็นต้องเขียนเห็นผลที่อยากศึกษาต่อในคณะนี้ เพราะอาจารย์ไม่รู้จักเรา อาจารย์ไม่สามารถนั่งทางในแล้วนึกออกได้ว่า เด็กคนนี้ นิสัยยังไง ความชอบแบบไหน มีเป้าหมายอะไรในชีวิต มีแพชชั่นกับอะไร แล้วทำไมอยู่ๆอยากมาสมัครคณะนี้ … ดังนั้นจึง “จำเป็น” ต้องใส่ ใครไม่ใส่มีสิทธิ์ไม่ผ่านสูง เพราะที่พูดมาทั้งหมดเป็นปัจจัยในการประกอบการตัดสินใจ ว่าควรให้เข้าคณะนี้ไหม?
ผลงานกิจกรรมหาย : บางคนทำ QR Code และให้อาจารย์สแกนเข้าไปดูวิดิโอ เข้าไปดูเว็บไซต์ เข้าไปดูผลงาน แอปพลิเคชั่น หนังสั้น หรืออะไรก็ตาม Link เกิดความเสียหาย ดูไม่ได้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ เด็กคนนี้ไม่รอบคอบหรือเปล่า แล้วอาจารย์ก็จะไม่รู้ว่าต้องให้คะแนน Port ยังไงในเมื่อดูผลงานไม่ได้ ดังนั้นมีโอกาส ปัดตกสูง
การ Copy แอบอ้างผลงาน : เกิดขึ้นในทุกปีกับการก๊อปปี้ผลงานคนอื่น การตัดต่อชื่อเกียรติบัตร มีหลายเคสอาจารย์จับได้ ตัดสิทธิ์สมัครเรียนต่อในมหาวิทยาลัยนั้นทันที ดังนั้นส่วนนี้เป็นข้อหาที่ร้ายแรง อย่าทำให้ตัวเองต้องลำบาก เตือนแล้วนะครับ
ไม่ทำตามระเบียบการ : แน่นอนว่า Portfolio ทุกเล่มต้องทำตาม เพราะถือเป็น กฎเหล็กใครผิดจากนี้ ปัดทิ้ง เกรดไม่ถึง กิจจกรรมไม่ถึง ผลงานไม่ตรง สายการเรียนไม่ได้ เกรดรายวิชาไม่ผ่าน ระวังให้ดี เพราะอะไรก็ตาม ทุกอย่างระบุไว้แล้ว ต้องทำตาม ไม่ทำตามปัดตกทันทีไม่มีข้อแม้
พี่ทำไฟล์ port ราคาถูก 159.- บาทมาขาย อยากได้เข้าไปเลือกดูก่อน ถ้าชอบค่อยสั่งซื้อน้า > : https://bit.ly/3pqtPzq